แม้ไม่บ่อยครั้งที่มีข่าวรถพุ่งตกจากอาคารจอดรถ หรือพุ่งไปชนเสาไฟขณะเพิ่งสตาร์ทรถ แต่เหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อชีวิตและทรัพย์สิน เราจึงควรมีวิธีปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย ดังนี้
1. นั่งหลังพวงมาลัยให้พร้อมก่อน
มีคนขับรถจำนวนไม่น้อยที่ประมาทข้อนี้ โดยยืนด้านนอกรถแล้วเอื้อมมือมาสตาร์ทรถ ถือว่าอันตรายเป็นอย่างมาก เปรียบเสมือนการไม่ตรวจเช็คสิ่งใดเลย หากมีอะไรอยู่ตำแหน่งผิดปกติ รถอาจจะเคลื่อนออกไปเกิดอุบัติเหตุได้ทันที ดังนั้นจึงควรเข้าไปนั่งและคาดเข็มขัดให้เรียบร้อยก่อน
2. เช็คเบรคมือเพื่อความปลอดภัย
การดึงเบรคมือหลังจอดรถทุกครั้งเป็นสิ่งที่ควรทำ (ยกเว้นจอดขวางรถคันอื่น) เพื่อป้องกันรถไหล หรือหากมีรถมาชนขณะคุณไม่อยู่ จะช่วยลดความเสียหายกับเกียร์ได้ ขณะเดียวกันการดึงเบรคมือไว้ก่อนสตาร์ท หากรถเคลื่อนโดยไม่ได้ตั้งใจ เบรคจะช่วยได้เป็นอย่างดี
3. ตรวจสอบตำแหน่งเกียร์
การสตาร์ทรถที่ถูกต้องที่สุด เกียร์ต้องอยู่ในตำแหน่งจอดตัว P (Parking) ซึ่งจะทำให้รถหยุดอยู่กับที่ แต่รถเกียร์ธรรมดาจะอยู่ในตำแหน่งว่างตัว N (Neutral) ซึ่งรถยังสามารถเคลื่อนหรือไหลได้ จึงต้องใช้เบรคมือช่วย ส่วนตำแหน่งที่ไม่ควรอยู่ขณะสตาร์ทรถ คือ D (Drive) หรือเกียร์ขับเคลื่อนอื่นๆ 1 -7 เพราะจะอันตรายอย่างยิ่ง รถอาจจะพุ่งออกไปได้ แต่รถสมัยใหม่จะมีระบบป้องกันไม่ให้สตาร์ท
4. เปิด Switch on เช็คไฟเตือนหน้าปัดรถ
สำหรับรถที่ใช้กุญแจ ให้บิด 1 จังหวะ ส่วนรถที่ใช้ปุ่มกด(Push Start) ให้กด 1 ครั้งโดยไม่ต้องเหยียบเบรค ไฟเตือนต่างๆจะแสดงบนหน้าปัด และควรให้ไฟทั้งหมดดับลงก่อนจะสตาร์ทรถ ซึ่งตามปกติไฟสีเหลืองจะเป็นการเตือนทั่วไป เช่น เตือนระดับน้ำมันเครื่อง เตือนระดับน้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ เตือนแบตเตอร์รี่ และเซ็นเซอร์ต่างๆ ส่วนไฟสีแดงจะเป็นการเตือนที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ หากไม่ดับจึงยังไม่ควรออกรถ เช่น ประตูปิดไม่สนิท เบรคมือยังดึงค้างไว้ เป็นต้น
5. เหยียบเบรคทุกครั้งก่อนสตาร์ทรถ
หากเป็นรถที่ใช้ปุ่มกดสตาร์ท(Push Start) จะถูกบังคับให้เหยียบเบรคก่อนเสมอ แต่ถ้ารถที่ใช้กุญแจต้องจำไว้เสมอว่า ควรเหยียบเบรคก่อนสตาร์ททุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย และที่สำคัญเป็นการเช็คไปในตัวว่า มีอะไรไปขัดแป้นเบรคหรือคันเร่งคุณอยู่หรือไม่
6. เปิดแอร์-เปิดเครื่องเสียง ขณะสตาร์ท รถพังหรือไม่?
คำตอบ คือ "ไม่พังครับ" สามารถสตาร์ทได้ปกติ แต่เหตุผลที่ควรปิดให้หมดก่อน เพราะว่าระบบ 2 ส่วนนี้จะแย่งไฟฟ้าภายในจากแบตเตอร์รี่ขณะสตาร์ทรถ อาจทำให้สตาร์ทยากขึ้น หรืออุปกรณ์บางตัวอายุสั้นลง ดังนั้นจึง "ควรปิด" ครับ แต่รถราคาแพงบางยี่ห้อ อาจจะมีอุปกรณ์ป้องกันช่วยครับ
7. สตาร์ทแช่ยาว จะพังหรือไม่?
พังแน่นอนครับ หากคุณสตาร์ทติดยากหรือไม่ติด ควรหลีกเลี่ยงการสตาร์ทแช่ยาวเกิน 10-15 วินาที โดยเด็ดขาด เพราะจะส่งผลให้ไดสตาร์ทเสียหายได้ นอกจากนี้ยังควรต้องเว้นระยะห่างในการสตาร์ทครั้งต่อไปอีกเล็กน้อยด้วยรู้เช่นนี้แล้ว อย่าลืมปฏิบัติทุกครั้งก่อนสตาร์ทรถนะครับ แค่ 7 ข้อ ใช้เวลาไม่ถึง 30 วินาที เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองครับ
อภิสุข เวทยวิศิษฏ์