วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ทำบุญ 4 ประเภท ที่อาจสร้างบาปแทน

      จากการสูญเสีย "ออมสิน" เต่าตนุเพศเมียอายุ 25 ปี ที่ชาวบ้าน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พามาให้กองทัพเรือและศูนย์วิจัยสัตว์น้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ช่วยเหลือ หลังจากกลืนเหรียญที่มีผู้โยนทำบุญสะเดาะเคราะห์ตามความเชื่อภายในบ่อเต่าที่ปิดกิจการไปแล้ว วันนี้จะพาทุกท่านรู้จากการทำบุญที่อาจกลายเป็นการสร้างบาปโดยที่คุณไม่รู้ตัว



1. การโยนเหรียญลงบ่อน้ำ
          พบเห็นได้บ่อยภายในวัด มักเป็นการโยนเหรียญเพื่อให้ไปตกหรือค้างจุดใดจุดหนึ่ง เช่น พระพุทธรูป รูปปั้นศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ ซึ่งถ้าโยนสำเร็จจะมีความเชื่อว่าสมปรารถนา แต่ถ้าไม่สำเร็จเหรียญก็จะตกลงบ่อน้ำไป แต่หารู้ไม่ว่า ภายในบ่อน้ำเหล่านั้น มักมีสัตว์อาศัยอยู่จำนวนมาก อาทิ ปลา เต่า ตัวเงินตัวทอง ฯลฯ ซึ่งสัตว์เหล่านี้อาจเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอาหาร กลืนลงท้องจนป่วยตายได้


2. การปล่อยสัตว์
          การปล่อยสัตว์ทุกประเภทที่มีคนจับมา เช่น ปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยเต่า ฯลฯ ซึ่งตามความเชื่อหมายถึงการปล่อยกลับสู่ธรรมชาติเพื่ออิสรภาพ แต่สิ่งหนึ่งที่มาพร้อมกันกลับกลายเป็นสนับสนุนให้ผู้ค้าจับมาขาย เพราะเห็นว่าขายได้ มีคนซื้อเป็นประจำ กลายเป็นวัฏจักรค้าชีวิตที่ไม่รู้จบ แต่อย่านับรวมการไถ่ชีวิตโคกระบือนะครับ เพราะกรณีนั้นเงินที่ได้จากการไถ่ชีวิตโคกระบือ คือการนำไปซื้อออกกมาจากโรงฆ่าสัตว์เพื่อนำไปให้วัดหรือเกษตรกรเลี้ยง มิใช่การจับวัวมาขายเหมือนสัตว์เล็กอื่น


3. การให้อาหารช้างในเมือง
         แม้ปัจจุบันในเขตเมืองหลวง จะมีกฎหมายควบคุมไม่อนุญาตให้ควานช้างพาช้างเข้ามาเดินริมถนนได้ แต่รอบชานเมืองก็ยังมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง ที่ควานช้างซื้อผลไม้แบกมาขายต่ออีกทอดให้ผู้คนซื้อและป้อนช้างที่พามาเดินริมถนน ซึ่งอาจจะซื้อไปเป็นครั้งคราวตามความสงสาร แต่กลับเป็นการสนับสนุนให้ควานช้างพามาเดินมากขึ้น ซึ่งช้างเป็นสัตว์ป่า ไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะพามาเดินตามถนน นอกจากจะเสียสุขภาพช้างแล้ว ยังควบคุมลำบากเกิดช้างตกมัน หากไม่มีผู้ซื้อ ควานช้างก็คงจะไม่พาขายอีกอย่างแน่นอน


4. ทำบุญไม่ลืมหูลืมตา
         หมายถึงการทำบุญที่ขาดสติ ไม่พิจารณาก่อนว่าสิ่งที่กำลังทำนั้นเหมาะสมหรือไม่ เช่น การทำบุญกับพระปลอมหรือพระอาบัติ กลายเป็นการร่วมกันบ่อนทำลายพุทธศาสนา ,การทำบุญเกินตัว หรือเกินกำลังทรัพย์ กลายเป็นความทุกข์ที่จะตามมาในอนาคต ,การทำบุญหวังผล ทำบุญแลกวัตถุนิยมงมงายโดยคาดหวังว่าจะได้สิ่งตอบแทน ,การทำบุญเอาง่าย สักแต่ทำ แต่ไม่ได้จิตให้สงบ เป็นต้น เปรียบเสมือนคำสอนที่ว่า หากจะปล่อยสัตว์สู่ธรรมชาติ ยังต้องศึกษาก่อนว่าสัตว์บกถ้าปล่อยลงน้ำจะรอดชีวิตหรือไม่

          นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่เห็นได้ว่า บางครั้งการทำบุญก็ต้องใส่ใจพิจารณาเจริญสติภาวนา ว่าทำบุญไปแล้วได้บุญหรือไม่ หรือจะส่งผลทางตรงทางอ้อมเป็นบาปกับใคร แน่นอนที่สุดว่าการทำบุญต้องทำด้วยใจ และต้องไม่สร้างบาปไปพร้อมกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น