วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2559

"โรแมนซ์สแกม" ภัยใกล้ตัวช่วงวาเลนไทน์



ความรัก มักเป็นเรื่องที่ดีและละเอียดอ่อนเสมอ แต่หากความรักนั้นกลับกลายเป็นเรื่อง"หลอกลวง" คงเป็นเรื่องยากที่จะทำใจรับได้ ..เชื่อหรือไม่? ในปีที่ผ่านมา หญิงไทยกว่า 80 คน ตกเป็น"เหยื่อ"หลงเชื่อและโอนเงินให้มิจฉาชีพ โดยคนที่สูญเสียมากที่สุดโอนเงินให้คนรักที่ไม่เคยพบกันแม้แต่ครั้งเดียว เป็นเงินทั้งสิ้น 33 ล้านบาท ในช่วงระยะเวลาไม่ถึง 2 ปี เพราะถูกหลอกลวงว่าลงทุนทำธุรกิจร่วมกัน ขณะเดียวกันยังมีหญิงอีกคนที่ญาติพามาแจ้งความ เพราะโอนเงินไปกว่า 80 ครั้ง ให้กับคนรักที่ไม่เคยเห็นหน้าเช่นกัน รวมเป็นเงิน 10 ล้านบาท และแม้แต่ตำรวจเตือนว่าถูกหลอก ยังไม่เชื่อไม่แต่น้อย




โรแมนซ์สแกม (Romance Scam) เป็นขบวนการ"หลอกรักออนไลน์" มีกลุ่มมิจฉาชีพที่เรียกตนเองว่า "ไนจีเรีย 491" (คล้ายแก๊งยากูซ่าของญี่ปุ่น) ลงมือร่วมกับคนไทย หลอกคนไทยด้วยกัน โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นหญิงโสด อายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป มีการศึกษาและฐานะดี ซึ่งมิจฉาชีพจะใช้วิธีการค้นหาเฟซบุ๊คผ่านอีเมล เข้าไปพิมพ์แชตทักทายเหยื่อ สร้างโปรไฟล์หลอกว่าเป็นคนรูปร่างหน้าตาดี เป็นชาวยุโรป ดูภูมิฐาน มีหน้าที่การงานและการศึกษาดี เช่น เป็นทูต กัปตัน นักธุรกิจ ฯลฯ จากนั้นจะหว่านล้อมตีสนิทเหยื่ออย่างรวดเร็ว ใช้คำพูดหวานๆเพื่อให้เหยื่อยคล้อยตามจนหลงรัก จากนั้นจะหลอกให้เหยื่อโอนเงินให้ผ่านวิธีการต่างๆ เช่น หลอกว่าส่งของขวัญมาให้ แต่ติดศุลกากร ขอให้เราโอนเงินจ่ายสำรองไปก่อน ,หลอกว่าจะบินมาขอแต่งงานที่เมืองไทย ขอให้เราโอนเงินจองโรงแรมให้ก่อน เป็นต้น ซึ่งถ้าเหยื่อโอนเงินง่าย ก็จะหลอกให้โอนไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเหยื่อไหวตัวทัน ก็จะขาดการติดต่อไปทันที




พ.ต.อ.สมพร แดงดี รอง ผบก.ปอท. เปิดเผย 5 พฤติกรรมที่ส่งสัญญานว่าเราอาจถูกหลอกและตกเป็นเหยื่อ ดังนี้

1. ตกหลุมรักเราอย่างรวดเร็ว ทั้งที่คุยกันมาไม่นาน เรียกเราว่า Darling ,Honey ,หรือคำหวานต่างๆ เพราะมิจฉาชีพมักจะคุยกับเหยื่อหลายคน ใช้ประโยคเดิมๆซ้ำๆ เรียกที่รักเหมือนกันหมด เพื่อกันการเรียกชื่อผิด จากนั้นจะขอแต่งงาน หลอกว่าเป็นรักแรกพบ

2. ไม่เคยให้เห็นหน้าจริงง่ายๆ แต่จะใช้วิธีให้ดูแต่ภาพถ่าย หลากหลายอิริยาบท หรืออาจเป็นคลิปเคลื่อนไหวแทนการเปิดกล้องหรือนัดพบ โดยจะบ่ายเบี่ยงด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ

3. มักจะใช้ภาษาอังกฤษผิดหลักไวยากรณ์ตลอด เพราะมิจฉาชีพเกือบ 100% เป็นคนผิวสี ชาวไนจีเรีย ปลอมตัวมาขัดกับโปรไฟล์ปลอมที่ดูดีมีการศึกษา เป็นชาวยุโรปรูปงาม หน้าที่การงานดี

4. เริ่มเปิดกล้อง ทำกิจกรรมเปลื้องผ้า(Sex Online) ซึ่งเหยื่ออาจเป็นผู้ชายที่นึกสนุก แต่คนร้ายจะอัดคลิปไว้เพื่อรอจังหวะแบล็กเมล์ ทำให้คุณต้องยอมทำทุกอย่าง ไม่กล้าแม้กระทั้งแจ้งความ

5. เริ่มมีเหตุการณ์ให้เราต้องเสียเงิน อ้างเหตุผลให้เราโอนเงินให้ อ้างว่าไม่สบาย มีปัญหาชีวิต ชวนทำธุกิจ ทำให้เราสงสาร ตลอดจนจ่ายค่าธรรมเนียมในการรับของขวัญสุดแพงที่เขาส่งมาให้ โดยขั้นตอนนี้มิจฉาชีพมักจะใช้คนกลางอีกคนโทรหาเหยื่อแล้วแสร้งทำทีว่าเป็นคนจากบริษัทขนส่ง หรือ ศุลกากร เพื่อเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมการขนส่ง ซึ่งนกต่อมักเป็นคนไทย มีทั้งคนไม่รู้ตัว และคนที่ร่วมขบวนการโดยตรง ไปจนถึงขั้นเปิดบริษัทผิดกฏหมายรองรับเลยทีเดียว




ตำรวจ ปอท. ยอมรับว่า หากเหยื่อพลาดโอนเงินออกไปแล้ว มักจะตามจับกุมและได้เงินคืนยากมากโดยในปีที่ผ่านมาสามารถติดตามจับกุมได้เพียง 40% เท่านั้น ขบวนการนี้จะเข้าออกประเทศไทยบ่อย มีพาสปอร์ตปลอมหลายเล่ม และมักใช้วิธีการให้โอนเงินออกไปต่างประเทศด้วย รู้เช่นนี้แล้วขอให้สำรวจตนเองว่าคนแปลกหน้าที่คุยอยู่ มีพฤติกรรมเข้าข่ายข้อใดหรือไม่ หากสงสัยหรือต้องการคำปรึกษา สามารถติดต่อผ่านจ่าฮูก เฟซบุ๊ค ตำรวจปอท. หรือ www.tcsd.in.th โทร. 02-142-2555-60




by DJ อภิสุข เวทยวิศิษฏ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น