"อุตส่าห์ขับรถไปไกลถึงหาดชะอำ กลับต้องจ่ายเงินกินปูม้าราคากทม. เฉลี่ยแทบทุกร้านขายกันกิโลกรัมละ 450-550 บาท ถ้ากินราคาประหยัดก็ได้แค่ลูกปู แต่ถ้าเอาปูไซส์ใหญ่สัก 3 ตัว รับรองแบงค์ 1,000 บาท แทบไม่ได้ตังค์ทอน ไม่ได้ต่างกับนั่งกินอยู่กทม. ไม่ต้องเสียเวลาเหนื่อยขับรถด้วย"
ใครที่เคยเสียอารมณ์แบบนี้ ผมแนะนำให้มาที่นี่เลยครับ "ปูชักสะพานยก" ใกล้หาดชะอำ จ.เพชรบุรี ที่นี่เป็นชุมชนชาวประมง มีจุดเด่นในการเก็บรักษาปูเป็น
โดยชาวประมงจะนำปูเป็นๆเก็บไว้ในถุงตาข่าย แช่ไว้ในน้ำทะเล และผูกยึดกับราวสะพาน
เมื่อมีลูกค้ามาซื้อ จะชักปูขึ้นมาบนสะพาน
แล้วเทปูเป็นๆลงกาละมังให้เราเลือก
ราคาตั้งแต่กิโลกรัมละ 170 บาท 200บาท ไปจนไซส์ใหญ่สุดในวันนั้นกิโลกรัมละ 300 บาท
ซึ่งพอเข้าใจได้ว่าพวกไซส์ใหญ่จริงๆคงส่งร้านอาหารหมดแล้ว แต่สำหรับผมปู 3 ตัวเกือบ 1 กิโลกรัม ก็ยิ้มออกแล้วครับ
ที่นี่นอกเหนือจากปูเป็นแล้ว ยังมีขายอาหารทะเลทุกชนิด
ราคาไม่แพงจนน่าเลือกซื้อไปหมด
ข้อจำกัดของที่นี่ เห็นทีจะเป็นเพียงที่จอดรถที่ค่อนข้างจำกัด หอมหวนแค่ไหนก็ทานเลยไม่ได้เพราะไม่มีที่ให้นั่ง ต้องหอบกลับไปที่พัก หรือไปเช่าเก้าอี้ผ้าใบริมหาด 5 ชั่วโมง 100 บาท ละกันครับ
หากย้อนไปก่อนหน้านี้ที่ ททท. โปรโมทเป็น Unseen Thailand ใหม่ๆ มักมีข่าวเชิงลบในลักษณะว่าที่นี่เริ่มขายแพงไม่แพ้ริมหาด และรวมตัวกันขายแพงหมดทุกเจ้า ทำให้คนเงียบหายไปเยอะ มาถึงวันนี้แม้ตัวผมจะไม่ประสบเองโดยตรง แต่ขอแนะนำสำหรับการเลือกซื้อนะครับ
เวลาสอบถามราคาและเลือกขนาดปู ให้ถามไปเลยตรงไปตรงมา ซื้อน้อยหรือมากก็ต้องเขินอาย อยากกินสด กินแน่น กินไข่ ต้องหยิบเอง และหักลบน้ำหนักตะกร้าด้วย พึงพอใจแล้วค่อยตกลงจ่ายเงิน แนะนำว่าไม่ควรต่อรองราคา แต่ให้ขอเป็นการแถมจะดีกว่า
จากนั้นเมื่อได้ปูที่ต้องการแล้ว ให้ดูขั้นตอนการนึ่งหรือปรุงสุกด้วย เพราะมีบางคนเคยบอกว่ามีแม่ค้าขี้โกงมักหยิบปูออกุหรือสลับเปลี่ยนปูตัวเล็กในขั้นตอนนี้ ถ้าเป็นไปได้อย่าลืมนับจำนวนก่อน ซึ่งแน่นอนอาหารทะเลชนิดอื่นก็เช่นกันครับ
ต่อมาถ้าเข้าสู่กระบวนการนึ่งแล้ว ถือว่าวางใจได้ระดับนึง แต่บางครั้งแม่ค้าขายปูและแม่ค้ารับปรุงสุกอาจทำเป็นคนละร้านกัน เพื่อมาคิดค่านึ่งภายหลัง 50 บาท และค่าน้ำจิ้มอีก 50 บาท ขอให้เตรียมรับมือให้ดีครับ
ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นข้อมูลส่วนหนึ่งของการไปสัมผัสบรรยากาศด้วยตนเอง ผู้ที่สนใจไปลอง คลิ๊กดูตำแหน่งที่นี่ได้เลยครับ
By DJ อภิสุข เวทยวิศิษฏ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น