วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ไลน์เข้า! แชทเยอะจนอ่านไม่ทัน เลื่อนแชทสำคัญลงไปหมด มาจัดระเบียบ'รายการโปรด'กันเถอะ



     คนไทยแทบทุกคนใช้ LINE เป็นแอปพลิเคชั่นหลักในการติดต่อสื่อกัน ไม่ว่าจะระหว่างเพื่อน ครอบครัว ไปจนถึงที่ทำงาน และด้วยความที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เชื่อว่าหลายคนคงจะประสบปัญหา "ไลน์เข้า" มาอย่างมากมาย ไอคอนแทบจะขึ้น 999+ ตลอดเวลา ซึ่งมาจาก'เพื่อนหลัก1,000 และกลุ่มหลัก100' ใน LINE ของแต่ละคน ขอแนะนำวิธีการจัดระเบียบหน้าแชต หรือ Chat log ที่จะช่วยให้คุณ"ไม่พลาด"แชทจากคนสำคัญของคุณ ลองตั้ง "รายการโปรด" ดูเลย! 


1. เข้าไปที่แอปพลิเคชั่น LINE แล้วแตะไปที่หน้ารายการเพื่อน (ถ้าเป็น Android จะอยู่ซ้ายบน ส่วน iOS จะอยู่ซ้ายล่าง)




2. ไล่ดูรายชื่อเพื่อน หรือกลุ่ม แล้วเลือกคนที่อยากตั้งเป็นรายการโปรด แนะนำว่า ควรเป็นเพื่อนสนิท ครอบครัว เพื่อนที่คุยบ่อย และกลุ่มที่คุยบ่อยจริงๆ 




3. แตะที่สัญลักษณ์รูปดาว เพื่อตั้งเป็นรายการโปรด




4. จากนั้นไปที่หน้ารายการแชท จัดลำดับแชทใหม่




- สำหรับ Android แตะรายการแชท > แตะที่ 3 จุดแนวตั้ง มุมขวาบน เพื่อจัดการแชท > เลือกจัดลำดับแชท > แล้วเลือกรายการโปรด 


- สำหรับ iOS แตะรายการแชท > แตะเปลี่ยนลำดับแชท > แล้วเลือกรายการโปรด 




5. รายการโปรดที่คุณเลือกไว้ จะถูกจัดลำดับมาไว้ด้านบนเสมอ มีไอคอนรูปดาวสีเขียวที่รูปโปรไฟล์กำกับ และเรียงลำดับข้อความล่าสุดกันเองในกลุ่มรายการโปรด จึงจะแสดงรายการเพื่อนหรือกลุ่มทั่วไป 


     เพียงเท่านี้ เพื่อนหรือกลุ่มที่คุณต้องแชทคุยกันบ่อยๆ ก็จะถูกจัดลำดับให้อยู่บนๆ มองเห็นก่อนทุกครั้งเสมอ โอกาสการพลาดหรือตกหล่นหรือมองไม่เห็นแชทย่อมน้อยลง แนะนำว่า.. อย่าเลือกรายการโปรดเยอะจนเกินไปล่ะ เดี๋ยวจะยาวเหยียดจนไม่เห็นข้อความเพื่อนทั่วไป จนกลายเป็นพลาดพวกเขาได้เหมือนกันนะ อ๊ะ! ที่สำคัญก่อนทำขั้นตอนข้างต้น อย่าลืมอัปเดต LINE เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดทุกครั้งนะครับ


อภิสุข เวทยวิศิษฏ์

สอนเทคนิค 'ปักหมุด' ห้องแชทใน LINE แล้วคุณจะไม่พลาดเรื่องที่สำคัญ !!



     จากที่เคยสอนวิธีการตั้ง 'รายการโปรด' เพื่อแก้ปัญหาไลน์เข้าเยอะจนอ่านไม่ทัน เลื่อนแชทที่สำคัญลงไปหมด บทความนี้จะสอนอีกฟีเจอร์ที่ผู้เขียนชื่นชอบเป็นอย่างมาก นั่นคือ 'ปักหมุด' หรือ PIN ในหน้ารายการแชท ให้มาอยู่บนสุด ปักมากกว่า 1 ห้องก็ได้ โดยห้องที่ถูกปักหมุด จะอยู่บนสุดเสมอ อยู่เหนือรายการโปรดเสียอีก ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้ได้หลายรูปแบบ ดังนี้ 




     1. ขั้นสุดของความสำคัญ !!   :  เพื่อนสนิทมิตรสหายรอไปก่อน ตอบช้านิดช้าหน่อยอย่าว่ากัน ฟีเจอร์นี้ขอเป็นแฟน หรือกิ๊ก หรือเจ้านาย เท่านั้น!! เป็นกลุ่มคนที่พลาดตอบแชทไม่ได้เป็นอันขาด แนะนำให้คุณปักหมุดพวกเขาเอาไว้บนสุดเลย ไม่พลาดอย่างแน่นอน เปิดไลน์เมื่อไรเป็นต้องเห็น 


     2. ใช้เตือนเรื่องที่ต้องทำ  :  จะนอนอยู่แล้วเชียว.. เจ้านายดันมาสั่งงานซะดึกๆดื่นๆ รุ่งขึ้นต้องทำงานสำคัญที่ห้ามลืม! แนะนำให้คุณกดปักหมุดไว้เลยครับ ห้องแชทนั้นจะได้อยู่บนสุด อย่างน้อยทันทีที่คุณเปิดไลน์เพื่อคุยกับใครก็ตาม คุณก็จะเห็นห้องที่ปักหมุดค้างอยู่ด้านบน ก็น่าจะพอเตือนความจำคุณได้บ้างล่ะน่า 


     3. ใช้ได้ตั้งแต่จีบกัน ไปจนถึงปิดบัง  : ห้องแชทที่คุณปักหมุด จะอยู่ด้านบนสุดเสมอ ถ้าคุณกำลังจีบใครอยู่ ลองแสดงความหวานจีบกันดูสิ"เราปักหมุดเธอไว้บนสุดเสมอนะ เป็นห้องแชตที่สำคัญที่สุด ทักปุ๊บตอบปั๊บแน่นอนจ้า" ..ตรงกันข้าม หากคุณกำลังซ่อนกิ๊กอยู่ แล้วแฟนอาจขอเช็คหน้ารายการแชท แนะนำให้ตั้งทั้งรายการโปรดและปักหมุดห้องแชทมั่วๆไปก่อน อย่างน้อย'ห้องต้องห้าม'ของคุณก็ถูกดันลงไปอยู่ล่างๆ มีโอกาสยืดชีวิตอีกหลายวินาทีล่ะน่า กดซ่อนไปอีกชั้น ถ้าไม่ทักมาพอดีก็อาจจะรอดตัวนะ (ปล.ส่วนใครกำลังจับกิ๊กโปรดรู้ไว้ ฮ่าๆ)




มาดูวิธีทำกัน 


1. Android  : ในหน้ารายการแชท ให้แตะค้างห้องที่ต้องการ แล้วเลือกปักหมุด 




2. iOS  :  ในหน้ารายการแชท ให้แตะค้างสั้นๆห้องที่ต้องการ แล้วเลื่อนนิ้วจากซ้ายไปขวา แล้วเลือกไอคอนปักหมุด ปุ่มซ้ายสุด




     แนะนำว่าไม่ควรปักหมุดเยอะจนเกินไปนะครับ มิเช่นนั้นการปักหมุดและรายการโปรด จะแยกกันแทบไม่ออกเลย แทนที่จะเป็นการลำดับความสำคัญ กลับกลายเป็นเกะกะสายตา ต้องคอยเลื่อนลงดูคนที่อยู่ข้างล่างทุกครั้งที่หยิบไลน์เสียอย่างนั้น


อภิสุข เวทยวิศิษฏ์ : ผู้ดำเนินรายการ I like IT

วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

มือลั่น!? ก็กด “Unsend” ยกเลิกข้อความ LINE ที่ส่งผิดได้นะ



     เชื่อว่าหลายคนคงเคยประสบปัญหาส่งไลน์ผิดห้อง ทำให้หน้าแตกและเข้าใจผิดกันมานักต่อนัก ล่าสุดLINE ปล่อยฟีเจอร์ใหม่ล่าสุด “Unsend” ยกเลิกข้อความที่ส่งผิดได้แล้ว!! ยกเลิกได้หมดทั้งข้อความ รูปภาพ และสติ๊กเกอร์ แต่มีข้อจำกัดที่สามารถยกเลิกข้อความที่ส่งผิดภายใน 24 ชั่วโมงเท่านั้น วิธีการง่ายๆดังนี้


1. อัปเดทเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดก่อน (ปัจจุบัน Android เป็น 7.17.2 , ส่วน iOS เป็น 7.17.1)




2. จากนั้นการแชตไลน์ทั่วไป หากคุณส่งผิดและต้องการยกเลิกการส่ง เพียงกดค้างที่ข้อความนั้น แล้วเลือกยกเลิกข้อความได้เลย




     ถามว่าแล้วคู่สนทนา หรือกลุ่มเพื่อนในห้องสนทนานั้นจะเห็นอะไรแทน? คำตอบคือ หากเพื่อนคุณอ่านข้อความอย่างรวดเร็วทันที แล้วคุณกดยกเลิกทีหลัง ในห้องสนทนาจะขึ้นว่า คุณยกเลิกข้อความ แต่หากคุณยกเลิกได้เร็วพอ เพื่อนของคุณยังไม่ทันอ่าน ในห้องสนทนาก็เหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยครับ ทั้งนี้ฟีเจอร์ Unsend ไม่ใช่ฟีเจอร์ใหม่ในแอปพลิเคชั่นแชตอื่นๆ และถือเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์อย่างมากต่อผู้งาน แต่อย่าลืมว่า.. การตรวจทานก่อนกดส่งทุกครั้ง น่าจะเป็นการกันไว้ดีกว่าแก้นะครับ :)


อภิสุข เวทยวิศิษฏ์

จัดเลย! 4 ไอเทมไร้สาย เปลี่ยนลุคให้ดูทันสมัย 4.0





1. เมาส์ไร้สาย


     อุปกรณ์ไอทีพื้นฐานของชาวออฟฟิศ ที่ต้องคู่กับการใช้คอมพิวเตอร์แลปทอป หรือโน๊ตบุ๊ค เพียงคุณเปลี่ยนเมาส์เดิมๆที่มีสายระเกะระกะ เป็นเมาส์แบบไร้สาย (Wireless Mouse) ราคามีให้เลือกตั้งแต่ไม่เกิน 500 บาท ไปจนถึงแบบมาพร้อมกับคีย์บอร์ดไร้สาย(Wireless Keyboard) ราคาไม่เกิน 1,500 บาท จะช่วยเพิ่มบรรยากาศการทำงาน และความทันสมัยได้ไม่น้อย แถมช่วยให้โต๊ะคุณดูโล่งขึ้นอีกเล็กน้อยด้วย





2. อุปกรณ์สะท้อนหน้าจอ


     หมดยุคนั่งห้องประชุมแล้วถามหาสายนี่หัวต่อโน่นอีกต่อไป หากคุณมีอุปกรณ์สะท้อนหน้าจอ(Wireless Casting) เช่น Google Chromecast ,AirPlay ,Screen cast ,Screen mirroring ช่วยให้คุณดูเป็นคนยุค4.0 ได้เป็นอย่างดี เพราะคนยุคใหม่คุ้นเคยการใช้สมาร์ทโฟนกันหมดแล้ว แถมเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่นต่างๆก็ยังทำ Mobile site ไว้แทบทั้งนั้น ถ้าคุณจะนำเสนออะไรที่เกี่ยวกับสมาร์ทโฟน ก็ควรจะมีติดไว้ ใช้ได้ทั้งงานที่ออฟฟิศ และดูหนังฟังเพลงที่บ้าน ราคามีตั้งแต่ 500 - 3,000 บาท





3. แท่นชาร์จไร้สาย


     สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ทยอยรองรับ แท่นชาร์จไร้สาย (Wireless Charger) กันเป็นแถว ถ้ามือถือคุณรองรับอยู่แล้ว ก็น่าจะมีตั้งไว้บนโต๊ะทำงานเก๋ๆ แสดงถึงรสนิยมแล้วความทันสมัยของเจ้าของโต๊ะได้อย่างดี ราคามีตั้งแต่ 800 - 3,000 บาท ถ้าของแบรนด์อาจจะแพงหน่อย อย่าลืมดูแบบที่รองรับการชาร์จด่วน (Fast Charge) ด้วย





4. เครื่องเสียงไร้สาย


     เครื่องเสียงที่รองรับบลูทูธทั้งหมด เดี๋ยวนี้ราคาไม่ได้แพงจนเกินไป ไม่ว่างจะเป็นหูฟังไร้สาย หรือลำโพงไร้สาย ราคาจับต้องได้ตามท้องตลาดมีเยอะแยะ แต่คุณภาพกับราคามักไปด้วยกัน ถ้าซื้อแพงหน่อยคุณภาพเสียงย่อมดีตาม แต่ถึงจะราคาประหยัดอย่างไรก็ย่อมดีกว่าใส่หูฟังแล้วมีสายแกะเกะห้อยต่องแต่งแน่นอน ราคามีตั้งแต่ 500 - 5,000 บาท แถมอีกนิดเครื่องเสียงในรถเองก็รองรับบลูทูธกันแทบทั้งนั้นแล้ว อย่าลืมใช้งานกันด้วยนะครับ




     ทั้งหมดนี้ หากไม้เน้นยี่ห้อมากนัก สามารถหาซื้อได้ในราคาไม่เกินอย่างละ 1,000 บาท ถือเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆที่เราสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน




อภิสุข เวทยวิศิษฏ์


"4 ไอเทม" ง่ายๆ ช่วยเปลี่ยนลุคของคุณให้เป็นยุค 4.0 #IlikeIT


"การตื่นนอน" บอกพฤติกรรมในแต่ละวันได้



     เชื่อหรือไม่ว่าการตื่นนอนสามารถบ่งบอกพฤติกรรมในแต่ละวันของคุณได้ เพราะการตื่นนอนคือการเริ่มต้นวันใหม่เสมอ หากคุณเลือกได้ดี ทุกวันของคุณจะเป็นการเริ่มต้นวันที่ดีตามเลยทีเดียวครับ





(1) #ตื่นตามรูทีน


ตื่นนอนตามกิจวัตรประจำวัน เช่น ตื่น 6 โมง เพื่อออกจากบ้าน 7 โมง และถึงที่ทำงาน 8 โมง หากคุณเป็นเช่นนี้ ชีวิตในแต่ละวันของคุณอาจจะน่าเบื่อไม่น้อย ซ้ำซากจำเจ ลึกๆคุณอาจอารมย์ไม่ดีเท่าไรนักในช่วงเช้า





(2) #ตื่นเพราะหน้าที่


ตื่นเพราะต้องไปปฏิบัติภารกิจ เช่น มีงานสำคัญ มีสอบ มีประชุมวาระพิเศษ ถือเป็นสิ่งที่ดีที่มีเป้าหมาย แต่เชื่อว่าคืนนั้นของคุณอาจจะนอนไม่ค่อยหลับ กังวล กลัวไม่ตื่น ไปจนถึงไม่อยากทานข้าวเช้า จนกระทั่งหน้าที่นั้นของคุณเสร็จสิ้นนั่นแหละ คุณถึงจะเริ่มยิ้มออก





(3) #ตื่นเพราะมีจุดมุ่งหมาย


ถือเป็นการตื่นนอนที่ดีที่สุด นึกภาพสมัยคุณมีความรักในวัยเรียน ที่คุณอยากรีบตื่นรีบไปโรงเรียนเพื่อไปเจอคนที่คุณแอบชอบสิ รับรองว่าความง่วงทำอะไรคุณไม่ได้ คุณจะกระปรี้กระเปร่าทั้งวัน มีความสุขที่ได้ทำอะไรในแต่ละวันเลยล่ะ





(4) #ตื่นเพราะร่างกายนอนเพียงพอ


กรณีนี้แบ่งเป็น 2 ข้อย่อย แบบแรกคือคุณนอนเพียงพอจริงๆ อาจจะตื่นก่อนนาฬิกาปลุกด้วยซ้ำ ตื่นมาแล้วจะไม่ง่วง พร้อมอาบน้ำเดินหน้าวันนั้นได้ทันที ส่วนแบบที่สองคือคุณนอนดึกตื่นสาย หรืออาจจะตื่นบ่ายเลยด้วยซ้ำ แม้ชั่วโมงนอนอาจจะเพียงพอ แต่นั่นไม่ได้ทำให้คุณสดชื่นเลย คุณอาจจะรู้สึกปวดหัวหน่อยๆ ลองหาอะไรร้อนๆทานอาจช่วยได้ คล้ายๆกับการแก้"แฮ๊งค์"นั่นแหละ




Cr.mensxp


(5) #ตื่นแต่ไม่รู้จะไปไหน


ตื่นนอนแล้วแต่ยังกลิ้งบนที่นอน มองเพดาน เล่นมือถือ ไม่มีจุดหมายในวันนั้น การตื่นนอนแบบนี้อาจทำให้คุณเฉื่อยแฉะ ไม่มีแรงจูงใจ คุณควรกำหนดเป้าหมายในชีวิตได้แล้ว!





     คุณตื่นนอนแบบไหน ถามใจดูนะครับ หากใครตื่นแบบที่(3)ได้ทุกวันคงน่าอิจฉามากๆ หรือหากเรามีเป้าหมายที่ดีที่อยากทำในแต่ละวันก็คงทำได้ ว่าแล้วขอลุกออกจากเตียงไปทำงานก่อนนะครับ

    บทความโดย : อภิสุข เวทยวิศิษฏ์

จิบกาแฟเหนือคุ้งแม่น้ำแควน้อย ชมช้างอาบน้ำกลางธรรมชาติ @ RimNam Cafe' อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี




  ขับรถเล่นมาถึง จ.กาญจนบุรี บังเอิญได้พบกับร้านกาแฟที่น่าประทับใจจนอยากบอกต่อ "ริมน้ำ คาเฟ่" (RimNam Cafe') ชื่อร้านที่สุดแสนจะธรรมดา แถมยังซ่อนอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวที่ไม่สะดุดตาเอาเสียเลย แต่เมื่อก้าวเข้าร้านไปแล้ว ผมรับรองว่าคุณจะอยากกลับมานั่งที่นี่อีกอย่างแน่นอน



   ร้านตั้งอยู่ใน อ.ไทรโยค จ.กาญจนุบรี เหมาะสำหรับผู้ที่ผ่านมาเที่ยวน้ำตกไทรโยค ถ้ำกระแซ และขี่ช้างอาบน้ำที่ปางช้างไทรโยก ซึ่งร้านกาแฟเล็กๆแห่งนี้อยู่ติดริมแม่น้ำแควน้อย ห่างจากทางรถไฟสายมรณะ 3 กิโลเมตร จิบกาแฟชมบรรยากาศเหนือคุ้งน้ำพอดิบพอดี



   ทางเข้าร้านจะเหมือนคุณขับรถเข้าไปในบ้านที่ปลูกอยู่ในพื้นที่บริเวณเดียวกัน เมื่อสุดทางจะลานจอดรถ จากนั้นถึงเดินเข้าส่วนร้านกาแฟ







  ระหว่างทางเดิน จะมีมุมถ่ายรูป และมุมนั่งสำหรับผู้ที่มาเป็นกลุ่ม




  เดินเพลินๆ ถ่ายรูปเพลินๆ เงยหน้ามาอีกทีคุณจะประหลาดใจ ..








   โอโห! ใช่แล้วครับ คุณกำลังยืนอยู่เหนือคุ้งแม่น้ำแควน้อย




  และหากจังหวะดีเหมือนผม ช้างที่กำลังอาบน้ำอยู่ด้วย เป็นช้างจากปางช้างไทรโยค




   อย่าเพิ่งรีบไปถ่ายรูปซะล่ะครับ เลี้ยวขวามาซื้อกาแฟกันก่อน ทางเดินเข้าได้ออกแบบจำลองรางรถไฟกันเลยทีเดียว



   สำหรับกาแฟร้านนี้ รสชาติดี หอม อร่อยกว่าที่ผมคิด แถมราคายังเป็นมิตร ด้วยความที่ผมเป็นคนชอบกินกาแฟปั่น ในใจผมแอบผิดหวังเล็กๆที่ไม่มีกาแฟปั่น แต่พอได้ชิมเมนู "คาราเมลแมคเคียโต้เย็น" แก้วนี้แล้ว รู้สึกฟินจนต้องเดินกลับไปคุยกับคนคุมร้านเพื่อมาเขียนแนะนำให้ฟรีๆซะหน่อย




   ทราบมาว่า เจ้าของร้านผู้ชายอายุ 30 ปี ..ออ เพิ่งชงกาแฟให้ผมตะกี้ แล้วเดินไปไหนไม่รู้.. จบกฎหมาย แล้วเรียนต่อต่างประเทศ ต่อมาต้องกลับมาดูแลพ่อแม่ที่นี่ เลยถือโอกาสเปิดร้านกาแฟเล็กๆมาได้ 7 ปีแล้ว ..แต่ร้านก็ไม่ได้เล็กนะผมว่า




   เหตุผลสำคัญที่ร้านนี้ไม่มีเครื่องปั่น เป็นเพราะกาแฟทุกแก้ว จะชงด้วยความใส่ใจ และมีรายละเอียด หากมีเมนูปั่นเกรงจะทำไม่ทัน ลูกค้ารอนาน และเสียงปั่นอาจจะดังรบกวนลูกค้าที่ชมทิวทัศน์อยู่



  ร้านนี้ ไม่มี Wifi และไม่มีให้บริการปลั๊กไฟนะครับ ด้วยเหตุผลที่ว่าต้องการให้ชมธรรมชาติ และมีเวลาแห่งความสุขกับคนใกล้ตัว




  โดยรวมแล้วผมว่าร้านนี้ เป็นร้านที่คุ้มค่าหากใครที่กำลังคิดว่าอาจขับรถนอกเส้นทางสักหน่อย เป็นร้านที่มีการออกแบบเก่งมาก มีมุมนั่งอยู่เยอะพอสมควร แต่สำหรับมุมไฮไลท์เหนือคุ้งน้ำแม่น้ำแควน้อย ก็แบ่งๆกันชมละกันนะครับ






   ปิดท้ายด้วยตำแหน่งร้านอยู่ที่ ทล.3344 ใกล้ที่ว่าการอำเภอไทรโยค หรือยุคนี้ใช้พิกัด GPS น่าจะสะดวกสุด สำหรับผมประทับใจร้านนี้ ขอให้คะแนนที่ 9.5 ก็แล้วกันครับ ส่วนตัวยังขัดใจชาวโซเชี่ยลยุค 4.0 นิดๆ :)

Unseen! ต้นจามจุรียักษ์ อายุกว่า 100 ปี จ.กาญจนบุรี




     ลองจินตนาการถึงต้นไม้ขนาดใหญ่ยักษ์สักต้นที่คุณเคยเห็นผ่านตาตามประสบการณ์การท่องเที่ยวของแต่ของละคน ผมเชื่อว่า... ต้นจามจุรียักษ์ อายุกว่า 100 ปี ที่จังหวัดกาญจนบุรี จะทำให้คุณรู้สึกสัมผัสได้ถึงความมหัศจรรย์




     "ตอนเห็นครั้งแรก ก็ต้นใหญ่มากแล้ว" จากคำบอกเล่าของผู้อาวุโสในหมู่บ้าน ซึ่งจนถึงขนาดนี้อาจยังพิสูจน์ไม่ทราบแน่ชัดว่า ต้นจามจุรียักษ์ต้นนี้ มีมาตั้งแต่ พ.ศ. ใด หรืออายุเท่าไรกันแน่ มีเพียงคำบอกเล่าที่ส่งต่อกันมา กับหลักฐานการยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้า




     ด้วยขนาดเส้นรอบวงลำต้น 7.83 เมตร หรือประมาณ 10 คนโอบ เส้นผ่าศูนย์กลางร่มเงาประมาณ 51.75  เมตร ทำให้มีพื้นที่ใต้ร่มไม้ประมาณ 1 ไร่เศษ ความสูงจากพิ้นดินถึงยอด 20 เมตร




     รากไม้ขนาดใหญ่ชอนไชเป็นบริเวณกว้าง ผู้คนที่เคยมาต่างตกตะลึงกับความใหญ่โตมโหฬาร รู้สึกราวกับมนุษย์นั้นเล็กนิดเดียว เทียบกับธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่เกินจะจินตนาการ




     สถานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ 1 กรมการสัตว์ทหารบกอยู่ที่บ้านกสิกรรม อยู่ที่หมู่ 5 ต.เกาะสำโรง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เข้าจาก ถ.แสงชูโต แยกจากหน้าศาลากลางจังหวัด ใช้เส้นทาง ทล.3429 ตรงไปข้ามสะพานแม่น้ำแม่กลอง เลี้ยวซ้ายที่สามแยกวัดถ้ำเขาแหลม ไปตามทางประมาณ 5 กม. เลี้ยวซ้ายที่สามแยกเข้าทล.3209 ขับไปจนเข้าเขตกรมการสัตว์ทหารบก (หรือคลิกพิกัด GPS ที่นี่) ลักษณะพื้นที่ค่อนข้างเปิด ไม่มีค่าเข้าชม เวลาเปิด 06.00 - 18.00 น.





     สำหรับความประทับใจในสถานที่นี้ให้คะแนนเต็มได้เลยครับ แต่ความเห็นส่วนตัวที่ตามมาคือ หากการดูแล การควบคุม และการประชาสัมพันธ์ข้อมูล ทำเป็นระบบได้ดียิ่งขึ้น น่าจะยกระดับให้เป็น Unseen หรือ Old tree ระดับโลกได้เลย ต้นไม้ใหญ่ขนาดนี้คงไม่ได้มีอยู่รอดทุกประเทศอย่างแน่นอนครับ :)




  อภิสุข เวทยวิศิษฏ์