จากอุบัติเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา "มายังไง! รถพุ่งออกจากซอยย้อนศรชนดะ ถนนดินแดง คนขับยืนยันรถควบคุมไม่ได้ (คลิป)" โดยมีการพูดถึงประเด็นที่คันเร่งค้างทำให้ควบคุมรถไม่ได้จนเกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งทางตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมนั้น ลองมาดูแนวทางการควบคุมรถกรณี"คันเร่งค้าง"เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเองหากเกิดกรณีฉุกเฉิน
1. ตั้งสติ! อย่าดับเครื่องยนต์
สติเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้คุณ"ควบคุมรถ"ให้ปลอดภัยหรือเกิดความเสียหายน้อยที่สุด สิ่งที่ห้ามทำโดยเด็ดขาดคือการดับเครื่องยนต์ทันที แม้จะเป็นการตัดการทำงานของเครื่องยนต์ แต่จะทำให้ระบบผ่อนแรงต่างๆไม่ทำงานไปด้วย เบรคจะแข็ง พวงมาลัยจะหนักหรืออาจจะล็อกไปเลย ทำให้หยุดรถได้ยากขึ้น รถสมัยใหม่ที่เป็นปุ่มสตาร์ท (Push Start) อาจจะดับเครื่องยนต์ตอนวิ่งอยู่ไม่ได้ทันทีอีกด้วย ยิ่งทำให้ผู้ขับรถตกใจขึ้นอีก
2. เข้าเกียร์ว่าง (N)
เป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะจะตัดการส่งกำลังจากเครื่องยนต์ไปที่เกียร์ แม้รอบเครื่องยนต์จะสูงขึ้น มีเสียงดังขึ้น แต่จะไม่มีแรงขับไปเพิ่มที่ล้ออีก หน้าที่ของผู้ขับคือควบคุมรถเข้าข้างทางให้ได้ ถามว่าเครื่องยนต์จะพังหรือไม่เมื่อรอบสูงขึ้น เครื่องยนต์รุ่นใหม่ๆจะมีระบบจำกัดการทำงานรอบเครื่องไม่ให้เกินพิกัด ป้องกันการพังอยู่แล้ว แต่ถึงตอนนั้นพังก็พัง อย่าไปสนใจเลย เอาตัวเราปลอดภัยก่อน
3. เบรค ประคองรถจอด แล้วค่อยดับเครื่องยนต์
หลังจากไม่มีแรงขับเพิ่มไปที่ล้อแล้ว คุณก็เพียงเหยียบเบรคและควบคุมพวงมาลัย หาที่จอดที่ปลอดภัย ข้อควรระวังคือ ควรเหยียบเบรคด้วยน้ำหนักที่เหมาะสม เบรคแรงก็อาจถูกชนท้าย แต่หากด้านหน้าจะชนผู้อื่นก็จำเป็นต้องหยุดรถทันทีเหมือนกัน เมื่อหยุดรถแล้วอย่าลืมเปิดไฟฉุกเฉิน และดับเครื่องยนต์
4. ตรวจสอบ และขอความช่วยเหลือ
สิ่งที่ตรวจสอบได้ในเบื้องต้น คือการดูที่แป้นคันเร่ง ว่าอะไรไปดันค้ำอยู่หรือไม่ อาทิ แผ่นยางรองพื้น รองเท้า เครื่องสำอาง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุในเบื้องต้นได้ทั้งนั้น ส่วนสาเหตุในเชิงวิศวกรรม อาจจะต้องให้ช่างหรือผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ตรวจสอบ ดีที่สุดควรให้ช่างมาแก้ไขตรงจุดที่จอดเสีย ไม่ควรขับรถไปเองหากยังหาสาเหตุไม่พบ
DJ อภิสุข เวทยวิศิษฏ์
(https://www.js100.com/en/site/post_share/view/76303)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น