"ผู้ขับรถมักคิดว่า ง่วงก็ขับได้ เคยฝืนขับก็หลายทียังไหว อย่าไปคิดแบบนั้น เพราะครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณขับรถ" นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ ประธานทุนง่วงอย่าขับ เปิดเผยว่า การหลับใน เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุทั้งทางตรง ทางอ้อม และสาเหตุร่วมที่พบบ่อยครั้ง เชื่อได้ว่าเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนการเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนนในช่วงสงกรานต์ก็ว่าได้ ซึ่งอาการง่วงนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ไม่มีใครรู้ดีเท่าตัวคนขับรถเอง หากระหว่างขับรถเริ่มรู้สึกง่วง ควรหาอะไรทำ เช่น ทานขนมขบเคี้ยว พูดคุย ร้องเพลง ไปจนถึงการจอดพักรถเปลี่ยนอิริยาบท
ช่วงเวลา 14:00 - 16:00 น. และช่วงกลางคืน เป็นช่วงเวลาที่มีโอกาสง่วงมากที่สุด ถือเป็นช่วงเสี่ยงต่อการหลับใน เนื่องจากนาฬิกาของสมองมนุษย์จะสั่งให้นอน ไม่เกี่ยวกับหนังท้องตึงหนังตาหย่อน วิธีการแก้ง่วงที่สุดคือการจอดรถ และนอนหลับเพียง 10 นาที หรือที่เรียกว่า "take a nap" จะทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หากไม่ยอมนอนก็จะง่วงอยู่อย่างนั้น ขณะเดียวกันหากนอนมากกว่านั้นเช่น 1 ชม.ขึ้นไป ร่างกายจะยิ่งอยากนอน ทำให้งัวเงียเข้าไปอีก จึงแนะนำให้นอนหลับเพียง 10 นาที ดีที่สุดให้ดื่มเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน เพราะจะออกฤทธิ์หลังจาก 10 - 15 นาที ขึ้นไป ทำให้ตอนตื่นนั้นรู้สึกกระปรี้กระเปร่าไปในตัว
อย่างไรก็ตามสำหรับผู้โดยสารหรือคนที่นั่งมาด้วยกัน ไม่ควรจะนอนหลับเป็นอย่างยิ่ง ควรอยู่เป็นเพื่อนร่วมทาง ร่วมพูดคุย และคอยสังเกตอาการผู้ขับรถด้วย หากเริ่มเห็นการขับรถที่ผิดปกติ ออกนอกช่องทาง เหม่อลอย หนังตาเริ่มปิด บิดตัวไปมา ควรบอกให้หยุดรถ หรือขอแวะเข้าห้องน้ำ ถ้าให้ดีควรให้เวลาคนขับนอนพัก 10 นาที เพราะสมองต้องการเพียงเท่านั้น
cr.freepik
อภิสุข เวทยวิศิษฏ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น